็HILUX REVO

 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่่ 2015 (Toyota Hilux Revo 2015) ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เผยโฉมใหม่หมดจดทั้งภายนอก-ภายใน พร้อมขุมพลังดีเซล 2 บล็อกใหม่แรงกว่าเดิม เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา


     Toyota Revo 2015 ใหม่ ถือเป็นกระบะขนาด 1 ตัน เจเนอเรชั่นที่ 8 ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2511 นับเป็นระยะเวลาเกือบ 50 ปีที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

     ก่อนหน้านี้ เมื่อปี พ.ศ. 2547 โตโยต้า ได้แนะนำ 'ไฮลักซ์' เจเนอเรชั่นที่ 7 ลงสู่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก และยังได้รับการแตกไลน์ออกไปเป็นรถอเนกประสงค์พีพีวี 'Fortuner' และรถสไตล์เอ็มพีวี 'Innova'

 

     มร.ฮิโรกิ นาคาจิมะ เปิดเผยว่า “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ Hilux REVO ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนา เพื่อให้ Hilux REVO เป็นรถกระบะผู้กำหนดนิยามใหม่แห่ง “ความแกร่ง” สะท้อนภาพลักษณ์ตามแนวคิด “ยุคใหม่แห่งกระบะ  ทุกตารางนิ้วต้องไฮลักซ์”ด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงขึ้น แต่ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าเดิม ระบบเกียร์ใหม่แบบ 6 สปีด ระบบกันสะเทือนออกแบบมาสำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ พร้อมดีไซน์ที่ฉีกไปจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน

 

     ภายนอกของ Revo 2015 ใหม่ ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟหน้าสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home ออกแบบรับกับกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม พร้อมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก บันไดข้าง เสาอากาศแบบสั้น และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ All-terrain

 

     ห้องโดยสารภายใน รีโว่ 2015 มีขนาดใหญ่เพิ่มความโอ่โถง กว้างสบาย พวงมาลัยสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว, เครื่องเสียงมาพร้อมเนวิเกเตอร์แบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth/USB พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง, ระบบกุญแจสตาร์ทอัจฉริยะ, ระบบ Smart Entry เข้า-ออกโดยไม่ต้องใช้กุญแจ, ติดตั้งวัสดุซับเสียงคุณภาพสูง, ช่องจ่ายไฟ 220 โวลต์, กล่องเก็บความเย็นบริเวณคอนโซลหน้า และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารหลัง ฯลฯ

     ตัวถังยังคงมีให้เลือกทั้งแบบมาตรฐาน 2 ประตู (B Cab), 2 ประตูสมาร์ทแค็บ (C Cab) และ 4 ประตู (D Cab) พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ, 4 ล้อ และ 2 ล้อยกสูง (Prerunner) รวมทั้งหมด 33 แบบ

 


     เครื่องยนต์มีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ ดีเซล 2.4 ลิตร, ดีเซล 2.8 ลิตร และเบนซิน 2.7 ลิตร แบ่งออกได้ดังนี้

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV (High) ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า/3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร/1,600-2,000 รอบต่อนาที (เฉพาะรุ่น 4WD และ Prerunner)
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV (High) ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า/3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร/1,400-2,600 รอบต่อนาที (เฉพาะรุ่น 4WD และ Prerunner)
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า/3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร/1,400-2,800 รอบต่อนาที (เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ)
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า/3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร/1,200-3,400 รอบต่อนาที (เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ)
  • เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า/5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร/4,000 รอบต่อนาที

     ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch), สวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ (A-TRC - Active Traction Control) และระบบล็อคเฟืองท้าย Diff Lock

 

     ติดตั้งช่วงล่างแบ Dynamic Control Suspension พร้อมระบบกันสะเทือนใหม่ที่ให้ความนุ่มนวลกว่าเดิม, โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ออกแบบให้แข็งแกร่ง ทนทานยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการทรงตัว, ระบบควบคุมเสถียรภาพห้องโดยสาร (Body Control with Torque Demand) ช่วยควบคุมแรงบิดรองรับสภาพถนนขรุขระ

     ระบบความปลอดภัยติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลม และหัวเข่า)ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, เสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด HAC และควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC รวมถึงกล้องมองหลังขณะถอยจอด

 

     ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีขาว, สีเงิน, สีเทาดำ, สีดำ, สีขาวมุก, สีแดง และสีน้ำเงิน มีให้เลือกทั้งหมด 33 รุ่น ตั้งเป้ายอดจำหน่ายที่ 14,000 คันต่อเดือน

 

 

 

     ราคาจำหน่าย Toyota Hilux Revo 2015 ใหม่ มีดังนี้

     Double Cab (D Cab)

  • 2.8G 4WD A/T Navi ราคา 1,139,000 บาท
  • 2.8G 4WD Navi ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.4E 4WD ราคา 899,000 บาท
  • 2.8G Pre-runner A/T Navi ราคา 1,099,000 บาท
  • 2.4G Plus Pre-runner A/T Navi ราคา 1,009,000 บาท
  • 2.4G Pre-runner A/T Navi ราคา 969,000 บาท
  • 2.4G Pre-runner Navi ราคา 925,000 บาท
  • 2.7E Pre-runner A/T ราคา 895,000 บาท
  • 2.4E Pre-runner A/T ราคา 895,000 บาท
  • 2.4E Pre-runner ราคา 845,000 บาท
  • 2.4J Plus Pre-runner ราคา 809,000 บาท
  • 2.7E ราคา 795,000 บาท
  • 2.4E ราคา 795,000 บาท
  • 2.4J Plus ราคา 725,000 บาท


     Smart Cab (C Cab)

  • 2.8G 4WD Navi ราคา 899,000 บาท
  • 2.4E 4WD ราคา 799,000 บาท
  • 2.4G Pre-runner A/T Navi ราคา 865,000 บาท
  • 2.8G Pre-runner Navi  ราคา 859,000 บาท
  • 2.4G Pre-runner Navi ราคา 815,000 บาท
  • 2.4E Pre-runner A/T ราคา 815,000 บาท
  • 2.7E Pre-runner ราคา 765,000 บาท
  • 2.4E Pre-runner ราคา 765,000 บาท
  • 2.3J Plus Pre-runner ราคา 729 ,000 บาท
  • 2.4G ราคา 755,000 บาท
  • 2.4E ราคา 709,000 บาท
  • 2.7J Plus ราคา 679 ,000 บาท
  • 2.4J Plus ราคา 679,000 บาท
  • 2.4J ราคา 619,000 บาท


     Standard Cab (B Cab)

  • 2.8J 4WD ราคา 675,000 บาท
  • 2.8J Plus ราคา 605,000 บาท
  • 2.4J Plus SWB ราคา 585,000 บาท
  • 2.7J ราคา 569,000 บาท
  • 2.4J ราคา 569,000 บาท

Content's Picture

Comment(s)


Vote this Content ?

Create by :


keerati-auto

Status : ผู้ใช้ทั่วไป
เครื่องกล